เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๒ เวลา ๙.๐๐ น. นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานการประชุมหารือข้อราชการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายการบริหารราชการศาลยุติธรรม ครั้งที่ ๓/๒๕๖๒ (กลุ่มสำนักอธิบดีผู้พิพากษาภาคและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ) ณ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ โดยมีรองประธานศาลฎีกา อธิบดีผู้พิพากษาภาค อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลางและอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค ตลอดจนผู้บริหารในศาลฎีกา สำนักงานศาลยุติธรรม  และสำนักประธานศาลฎีกาเข้าร่วมการประชุม

        อธิบดีผู้พิพากษาภาคแถลงผลการดำเนินงานตามนโยบายของประธานศาลฎีกาซึ่งกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการคดีให้แล้วเสร็จภายใน ๒ ปี ผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก  ณ วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ โดยศาลทั้งหมดใน ๙ ภาค มีคดีค้างพิจารณาเกินกว่า ๒ ปี รวมทุกศาลเหลือเพียง ๗๐ เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่มีวันนัดฟังคำพิพากษาแล้ว โดยศาลยุติธรรมในพื้นที่ภาค ๙ ไม่มีคดีค้างพิจารณาเกิน ๒ ปี

        จากนั้น อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง และศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค แถลงผลการดำเนินงาน โดยมีคดีค้างพิจารณาเกิน ๒ ปี เฉพาะในศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง เพียง ๖ เรื่อง ซึ่งลดลงจากปีก่อน และในกลุ่มศาลอาญาคดีทุจริตฯ ทั้งหมดทุกศาล มีคดีค้างพิจารณาเกิน ๑ ปี ไม่เกิน ๒ ปี เพียง ๒๙ เรื่อง เท่านั้น โดยศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค ๙ ไม่มีคดีค้างพิจารณาเกินกว่า ๖ เดือน

        ประธานศาลฎีกากล่าวขอบคุณผู้บริหารทุกท่านที่ร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ และเน้นย้ำว่าการบริหารงานอย่างเคร่งครัดย่อมเป็นธรรมดาที่จะทำให้เกิดความไม่พอใจของคนบางกลุ่ม แต่ขอให้คำนึงถึงเป้าหมายประโยชน์และความพึงพอใจของประชาชนเป็นสำคัญ